girl applying cream to skin

สุขภาพผิวหน้าและน้ำตาล

เนื้อหานี้ได้รับการตรวจทานโดย แอนนา แดเนียลส์ นักโภชนาการ (Registered Dietitian) และโฆษกของสมาคมนักโภชนาการอาหารแห่งสหราชอาณาจักร (British Dietetic Association)

สุขภาพผิวหน้าและน้ำตาล

ผิวหนังเป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ถือว่าเป็นด่านป้องกันชั้นแรกของร่างกายและยังเป็นอวัยวะสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันโดยทำหน้าที่ป้องกันร่างกายจากสิ่งแวดล้อมภายนอก รวมไปถึงมีบทบาทสำคัญในการผลิตวิตามินดี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อสุขภาพกระดูก อีกทั้งยังสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวมได้ เช่นผื่นที่ปรากฏอยู่บนผิวหนังอาจเป็นสัญญาของการติดเชื้อ บทความนี้มุ่งเน้นไปที่เรื่อง ความเสื่อมสภาพของผิวหนังตามวัยและสิว

ความเสื่อมสภาพของผิวหนังตามวัย

คนส่วนใหญ่เกิดมาพร้อมกับผิวหนังที่มีสุขภาพดีและยืดหยุ่นได้ อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปและเกิดการชราภาพตามธรรมชาติร่างกายจึงซ่อมแซมความเสียหายของผิวและรักษาความยืดหยุ่นของผิวได้ยากขึ้น เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน  การเปลี่ยนแปลงของผิวอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยภายใน (เช่น พันธุกรรม) และการได้รับรังสีเอาตร้าไวโอเลตจากแสงแดดเป็นเวลานาน (1, 2) 
ปัจจัยที่มีผลต่อผิว ได้แก่ : (2-4)

  • พันธุกรรม
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  • อาการอักเสบในร่างกาย
  • รังสีอัลตราไวโอเลต
  • การสูบบุหรี่
  • โภชนาการอาหารและการใช้ชีวิต
  • มลภาวะ
Bearded man looking at wrinkes

ทำไมริ้วรอยจึงเกิดขึ้น?

คอลลาเจนและอีลาสตินเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวหนังมีโครงสร้างที่แข็งแรงและยืดหยุ่น เมื่ออายุเพิ่มขึ้นร่างกายจะผลิตโปรตีนเหล่านี้น้อยลง บวกกับปัจจัยต่าง ๆ ( ที่กล่าวไปข้างต้น) จึงทำให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลงและเกิดริ้วรอยตามมา (3)

ความยืดหยุ่นของผิวที่ลดลง 

กระบวนการที่ทำให้คอลลาเจนและอีลาตินเสื่อมสภาพและสูญเสียการทำงานสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยได้แก่ (3)

  •  การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินที่ลดลงตามอายุและการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่ลดลง
  • การเพิ่มขึ้นของเอนไซม์ที่มีหน้าที่ในการย่อยสลายคอลลาเจนและอีลัสติน (เอนไซม์คือสารในร่างกายที่ช่วยเร่งปฏิกิริยาเคมีต่าง ๆ )
  • การก่อตัวของสาร AGE (Advanced Glycated End Products) ส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจ้นเชื่อมโยงเข้าด้วยกันและทำให้แข็งตัวรวมไปถึงสูญเสียความยืดหยุ่น
  • ความเสียหายจากการอักเสบเรื้อรัง
Slices of rainbow coloured cake

น้ำตาลในอาหารส่งผลให้เกิดริ้วรอยได้หรือไม่?

ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่สามารถระบุได้ว่าการบริโภคน้ำตาลส่งผลให้เกิดริ้วรอย แต่จากงานวิจัยเชิงสังเกตได้พบว่ามีความเชื่อมโยง ระหว่างสุขภาพผิวและการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ (อาหารที่เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์) ส่งผลให้มีริ้วรอยที่น้อยลง (5, 6) ถึงแม้ว่างานวิจัยนี้ จะสามารถระบุได้ว่าการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพจะสามารถช่วยเรื่องผิวโดยรวมได้ แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่าสามารถป้องกันการเกิดริ้วรอย (งานวิจัยนี้ไม่สามารถสรุปผลกระทบของปัจจัยต่าง ๆ รวมกันได้) ปัจจัยอื่น ๆ (เช่นพันธุกรรมและพฤติกรรมของผู้เข้าร่วมงานวิจัย อย่างเช่นการสูบบุหรี่และการป้องกันต่อแสงยูวี) ที่สามารถส่งผลต่อข้อสรุปนี้ได้

AGE (Advanced Glycated End Products)

AGEs หรือโปรตีนและไขมันที่เป็นผลผลิตที่ได้มาจากกระบวนการไกลเคชันขั้นสูง (ทำปฏิกิริยากับโมเลกุลของโปรตีน) ปฏิกิริยานี้สามารถเกิดขึ้นในเซลล์ของร่างกาย ส่งผลให้ความยืดหยุ่นของผิวลดลงและเร่งการเกิด ผิวที่แก่ก่อนวัย (3) สื่อต่าง ๆ มักกล่าวถึงผลกระทบ ของน้ำตาลที่มีต่อกระบวนการไกลโคเจนในผิวหนังที่ไม่เป็นความจริง ถึงแม้ว่าโมเลกุลที่ได้มาจากคาร์โบไฮเดรตจะมีบทบาทในกระบวนการ ไกลเคชั่น แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า หากคนที่มีสุขภาพดีบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาล (ไม่เกี่ยวข้องกับปริมาณน้ำตาลในเลือด) จะทำให้เกิดริ้วรอยบนผิวหนังเพิ่มขึ้น ระดับน้ำตาลในเลือดถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเนื่องจากร่างกายต้องการกลูโคสในปริมาณที่สม่ำเสมอเพื่อความสมดุลย์ของการทำงานในร่างกาย ในบุคคลที่มีสุขภาพดีการขึ้นลงของระดับน้ำตาลในเลือดเพียงเล็กน้อย ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย ซึ่งทำโดยการควบคุมของฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย

measuring blood sugar levels

ระดับน้ำตาลในเลือดมีผลต่อริ้วรอยอย่างไร?

ได้พบความเชื่อมโยงระหว่างภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน (Hyperglycaemia) กับการเพิ่มขึ้นของสาร AGEs (8, 9) มีความเชื่อที่ว่า น้ำตาลในอาหารส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดแต่ในความเป็นจริงแล้วร่างกายสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ผ่านอินซูลินและฮอร์โมนต่างๆ เพื่อรักษาสมดุลย์ในร่างกาย (Homeostasis) แม้หลังจากการบริโภคคาร์โบไฮเดรต (10, 11) ในกรณีที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน เบาหวานรวมไปถึงการมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงอย่างต่อเนื่องก็อาจส่งผลให้เกิด AGEs เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เร่งกระบวนการแก่ของผิว (9, 12) อย่างไรก็ตามควรมีงานวิจัยที่ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อหาข้อสรุประหว่างความเชื่อมโยงของโรคเบาหวานและ AGEs ต่อริ้วรอยที่เพิ่มขึ้น โดยบุคคลที่บริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีการเพิ่มปริมาณของกลูโคส ต่อมื้ออาหารเพียงเล็กน้อย แลดูเหมือนจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าว (13, 14)

ผู้เชี่ยวชาญว่าอย่างไร?

ในปัจจุบันยังไม่มีองค์กรใดในโลกที่สามารถหาผลเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคน้ำตาลและริ้วรอยได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรที่ปรึกษาอิสระระดับประเทศหรือระดับนานาชาติรวมไปถึงองค์กรวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ (เช่น The European Food Safety Authority (EFSA), The US Food and Drug Administration or National Institute on Aging) อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังรอบโลกได้เห็นตรงกันว่า อายุ พันธุกรรม และปัจจัยภายนอก เช่น การโดนแสงแดดและการสูบบุหรี่นั้นส่งผลต่อริ้วรอย (1-3, 8)


สิว

เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยที่สุดทั่วโลกและมักจะเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน (15) สิวเกิดขึ้นจากรูขุมขนเล็กๆที่อยู่บนใบหน้า (รูขุมขน) ที่ถูกอุดตัน ส่งผลให้เกิดตุ่มสิว ผิวมันและในบางครั้งอาจมีอาการแสบร้อนหรือเจ็บเมื่อสัมผัสและนอกเหนือจากบนใบหน้าแล้วยังสามารถเกิดขึ้นได้ตามแผ่นหลังและหน้าอก (16) โดยมีปัจจัยหลัก ๆ อยู่ 4 ข้อ ที่ทำให้เกิดสิว

  • การผลิตซีบัม (น้ำมัน) ที่มากเกินไป ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นของฮอร์โมน 
  • การเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียบนใบหน้า (Cutibacterium acnes)
  • การตัดเซลล์ของรูขุมขนที่ผิดปกติ
  • การอักเสบที่เกิดขึ้นบริเวณรูขุมขนและต่อมไขมัน
young girl touching her face

สาเหตุของการเกิดสิว

สาเหตุของการเกิดสิวยังไม่เป็นที่แน่ชัด จึงทำให้มีความเชื่อผิด ๆ อยู่มาก (16) โดยทั่วไปเชื่อกันว่าสิวเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโดยเฉพาะในช่วงวัยแรกรุ่น นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าพันธุกรรมอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดสิว อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับจำนวนของประชากรชาวตะวันตกที่เป็นสิวกับประชากรอื่น ๆ บ่งชี้ว่าสิ่งแวดล้อมอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว เนื่องจากสิวเป็นเรื่องที่ซับซ้อนจึงเป็นเรื่องยากที่จะระบุได้ว่าสิวนั้นเกิดขึ้นจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมอะไร

ปัจจัยที่อาจมีบทบาทต่อการเกิดสิว

  • พันธุกรรม
  • ฮอร์โมน
  • จุลินทรีย์ในผิวหนังและลำไส้
  • ความเครียด
  • มลพิษทางอากาศ
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่รุนแรงเกินไป
  • ยาบางชนิด
  • อาหารและพฤติกรรมการใช้ชีวิต

คาร์โบไฮเดรตบางชนิดสามารถทำให้เกิดสิวได้หรือไม่ ?

ความเชื่อมโยงระหว่างโภชนาการอาหารกับสิวยังเป็นประเด็นที่ถูกถกเถียงกันมาอย่างยาวนานเนื่องจากยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่า มีผลเชื่อมโยงกันโดยตรง หลักฐานส่วนใหญ่ที่มี ได้มาจากการศึกษารูปแบบการสังเกตการณ์ซึ่งทำให้ไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจนในเรื่องของเหตุและผล (Causation) (เช่นสิ่งหนึ่งทำให้เกิดอีกสิ่งหนึ่ง)  ในปัจจุบันจะมีการถกเถียงกันอย่างแพร่หลาย ทำให้เริ่มมีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงกับการเกิดสิว โดยมีการศึกษาทางคลินิกและแบบสังเกตบางฉบับได้พบว่าอาการสิวดีขึ้นเมื่อบริโภคอาหารที่มีค่าน้ำตาลกลูโคสที่ต่ำ (Low glycaemic) อย่างไรก็ตามหลักฐานที่มียังคงเป็นมาตรฐานที่ต่ำ จึงทำให้ประเด็นนี้ยังคงข้อขัดแย้งในงานวิจัยต่อไป (19-21) 

ค่าดัชนีน้ำตาลแสดงถึงความเร็วที่อาหารมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดเมื่อรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียวคาร์โบไฮเดรตจะถูกย่อยโดยร่างกายอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นตามมาด้วยค่าดัชนีนั้นเพิ่มขึ้น อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงได้แก่ ขนมปังขาว มันฝรั่งต้มและข้าวขาว ในขณะที่อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำประกอบไปด้วย ธัญพืชเต็มเมล็ด (โฮเกรน) ผักและผลไม้ส่วนใหญ่ ถั่วและเลนทิล โดยที่น้ำตาลนั้นมีค่าดัชนีที่อยู่ปานกลาง ค่าดัชนีน้ำตาลกลูโคสเป็นตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับปริมาณคาร์โบไฮเดรตในอาหาร ที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของน้ำตาลในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือดของมนุษย์ถูกควบคุมอย่างเข้มงวดและการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดที่เกิดขึ้นชั่วคราวหลังรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของคาร์โบไฮเดรตสูงเป็นกระบวนการทางร่างกายที่เกิดขึ้นตามปกติ (22) อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำอาจส่งผลดีต่อฮอร์โมนบางชนิดที่มีบทบาทต่อกระบวนการเกิดสิวอย่างไรก็ตามยังต้องมีงานวิจัยเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้มีข้อสรุปว่ากระบวนการต่าง ๆ นั้นเกี่ยวข้องกัน (15) หากคำนึงถึงการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพการไม่ควรโฟกัสไปยัง ค่าดัชนีอาหาร เพราะว่าอาหารที่มีค่าดัชนีต่ำอาจไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่นขนมหวานที่มีปริมาณไขมันสูงและขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ รวมไปถึงปริมาณวิตามินและแร่ธาตุที่ต่ำ (23) อย่างไรก็ตามคาร์โบไฮเดรตไม่ควรถูกจำแนกออกมาเมื่อเทียบกับสารอาหารอื่น ๆ  

ดังนั้นแนวทางการบริโภคอาหารในปัจจุบันจึงไม่แนะนำให้ทุกคนบริโภคอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ มักแนะนำให้บริโภคอาหารให้ครบทางด้านโภชนาและให้ความสำคัญกับการบริโภคธัญพืชเต็มเมล็ด โปรตีนที่มีไขมันต่ำและปลาที่มีไขมันดี รวมไปถึงผลไม้และผักต่าง ๆ 

 

Ask the expert

ผู้เชี่ยวชาญว่าอย่างไร?

ในโลกโซเชียลน้ำตาลและอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เช่น ช็อกโกแลตและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดสิว อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานที่ เพียงพอที่จะสามารถสรุปข้อกล่าวหาดังกล่าวได้ รวมไปถึงหลักฐานที่ว่าการลดหรืองดการบริโภคน้ำตาลสามารถลดการเกิดสิวได้ The UK national institution for healthcare excellence และ The British Association of dermatologist รวมไปถึง The American Academy of dermatology ได้ลงความเห็นว่าอาหารยังไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดสิวและ หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการแทรกแซงด้านอาหารโดยเฉพาะยังมีไม่เพียงพอ (19-21) ควรมีการศึกษาเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะได้เรียนรู้ทฤษฎีของการเกิดสิวที่เกิดขึ้นจากปัจจัยต่าง ๆ เช่นพันธุกรรม ฮอร์โมนและปัจจัยสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ยังไม่มีหลักฐานที่สามารถสรุปได้อย่างแน่ชัดว่าน้ำตาลในอาหารเป็นสาเหตุโดยตรงของการเกิดริ้วรอยและสิว เพื่อที่จะรักษาสุขภาพผิวให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและ อุดมไปด้วยสารอาหาร (โดยเน้นการบริโภคของวิตามินและแร่ธาตุ) การดื่มน้ำให้เพียงพอรวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการใช้ชีวิต ได้แก่ การนอนให้เพียงพอ การลดความเครียด การป้องกันตัวเองจากแสงยูวี และการงดการสัมผัสมลพิษทางอากาศรวมไปถึงการงดสูบบุหรี่ (3, 24, 25)

อ้างอิง

  1. Zhang M, Lin Y, Han Z, Huang X, Zhou S, Wang S, et al. Exploring mechanisms of skin aging: insights for clinical treatment. Front Immunol. 2024;15:1421858.
  2. Tobin DJ. Introduction to skin aging. Journal of Tissue Viability. 2017 Feb 1;26(1):37–46.
  3. Hussein RS, Bin Dayel S, Abahussein O, El-Sherbiny AA. Influences on Skin and Intrinsic Aging: Biological, Environmental, and Therapeutic Insights. J Cosmet Dermatol. 2024 Nov 27;e16688.
  4. Makrantonaki E, Zouboulis CC. Molecular Mechanisms of Skin Aging. Annals of the New York Academy of Sciences. 2007;1119(1):40–50.
  5. Mekić S, Jacobs LC, Hamer MA, Ikram MA, Schoufour JD, Gunn DA, et al. A healthy diet in women is associated with less facial wrinkles in a large Dutch population-based cohort. J Am Acad Dermatol. 2019 May;80(5):1358-1363.e2.
  6. Cosgrove MC, Franco OH, Granger SP, Murray PG, Mayes AE. Dietary nutrient intakes and skin-aging appearance among middle-aged American women23. The American Journal of Clinical Nutrition. 2007 Oct 1;86(4):1225–31.
  7. Ekiz Ö, Yüce G, Ulaşli SS, Ekiz F, Yüce S, Başar Ö. Factors influencing skin ageing in a Mediterranean population from Turkey. Clinical and Experimental Dermatology. 2012 Jul 1;37(5):492–6.
  8. Chaudhuri J, Bains Y, Guha S, Kahn A, Hall D, Bose N, et al. The role of advanced glycation end products in aging and metabolic diseases: bridging association and causality. Cell Metab. 2018 Sep 4;28(3):337–52.
  9. Chen C yu, Zhang JQ, Li L, Guo M miao, He Y fan, Dong Y mao, et al. Advanced Glycation End Products in the Skin: Molecular Mechanisms, Methods of Measurement, and Inhibitory Pathways. Front Med (Lausanne). 2022 May 11;9:837222.
  10. Hamer MA, Pardo LM, Jacobs LC, Ikram MA, Laven JS, Kayser M, et al. Lifestyle and Physiological Factors Associated with Facial Wrinkling in Men and Women. Journal of Investigative Dermatology. 2017 Aug 1;137(8):1692–9.
  11. Lean MEJ, Te Morenga L. Sugar and Type 2 diabetes. British Medical Bulletin. 2016 Dec 1;120(1):43–53.
  12. Gkogkolou P, Böhm M. Advanced glycation end products: Key players in skin aging? Dermatoendocrinol. 2012 Jul 1;4(3):259–70.
  13. Żelaźniewicz A, Nowak-Kornicka J, Osochocka A, Pawłowski B. Perceived facial age and biochemical indicators of glycemia in adult men and women. Sci Rep. 2022 Jun 16;12(1):10149.
  14. Christidis G, Küppers F, Karatayli SC, Karatayli E, Weber SN, Lammert F, et al. Skin advanced glycation end-products as indicators of the metabolic profile in diabetes mellitus: correlations with glycemic control, liver phenotypes and metabolic biomarkers. BMC Endocr Disord. 2024 Mar 5;24(1):31.
  15. Baldwin H, Tan J. Effects of Diet on Acne and Its Response to Treatment. Am J Clin Dermatol. 2021;22(1):55–65.
  16. National Health Service (NHS). 2017. Acne. https://www.nhs.uk/conditions/acne/
  17. Ryguła I, Pikiewicz W, Kaminiów K. Impact of Diet and Nutrition in Patients with Acne Vulgaris. Nutrients. 2024 May 14;16(10):1476.
  18. Meixiong J, Ricco C, Vasavda C, Ho BK. Diet and acne: A systematic review. JAAD International. 2022 Jun 1;7:95–112.
  19. Chaplin S. NICE guidance on the management of acne vulgaris. Prescriber. 2021;32(11–12):15–7.
  20. Reynolds RV, Yeung H, Cheng CE, Cook-Bolden F, Desai SR, Druby KM, et al. Guidelines of care for the management of acne vulgaris. Journal of the American Academy of Dermatology. 2024 May 1;90(5):1006.e1-1006.e30.
  21. British Association of Dermatologists. Acne. https://www.bad.org.uk/pils/acne/
  22. Röder PV, Wu B, Liu Y, Han W. Pancreatic regulation of glucose homeostasis. Exp Mol Med. 2016 Mar;48(3):e219–e219.
  23. Diabetes UK. Glycaemic index and diabetes. https://www.diabetes.org.uk/living-with-diabetes/eating/carbohydrates-and-diabetes/glycaemic-index-and-diabetes
  24. Solway J, McBride M, Haq F, Abdul W, Miller R. Diet and Dermatology: The Role of a Whole-food, Plant-based Diet in Preventing and Reversing Skin Aging-A Review. J Clin Aesthet Dermatol. 2020 May;13(5):38–43.
  25. Wong QYA, Chew FT. Defining skin aging and its risk factors: a systematic review and meta-analysis. Sci Rep. 2021 Nov 11;11(1):22075.